การป้องกันการทุจริต
นิยามและความสำคัญ
เทคโนโลยีในการป้องกันการทุจริตนั้นได้มีความก้าวหน้าไปมากในปัจจุบัน อันเป็นผลมาจากการพัฒนาวิทยาการด้านคอมพิวเตอร์ที่ทำการคำนวณได้อย่างรวดเร็วกว่าที่เคยมีมาและรองรับการวิเคราะห์ประสิทธิภาพสูงได้ รวมถึงmachine learning และการพัฒนาเทคโนโลยีด้าน artificial intelligence (AI) อื่นๆ โดยปัญหานี้มีความสำคัญเนื่องจากการทุจริต เป็นภัยต่อทุกคน และก่อปัญหาต่อสังคมในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มต้นทุนของสินค้าและบริการต่างๆ นำเงินภาษีไปใช้ในทางมิชอบ บั่นทอนทุนในการสร้างนวัตกรรม และบางครั้งแม้แต่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต
ประวัติความเป็นมา
การทุจริตนั้นสามารถครอบคลุมได้หลายมิติ ทั้งการใช้ทรัพยากรอย่างสูญเปล่าหรือผิดจริยธรรม การผิดนัดชำระเงินหรือการซื้อขายที่เป็นเท็จ การฟอกเงิน การสนับสนุนเงินทุนแก่กลุ่มก่อการร้าย ไปจนถึงประเด็นความปลอดภัยทางไซเบอร์และแม้แต่ความมั่นคงของสังคม ในอดีตนั้น องค์กรต่าง ๆ ได้แต่พึ่งพาระบบที่กระจายตัวและขาดการรวมศูนย์ รวมถึงขั้นตอนทางธุรกิจที่ตายตัว และการวิเคราะห์ในระดับไม่สูงกว่าพื้นฐานในการพยายามตรวจจับและรับมือสัญญาณเตือนต่าง ๆ ทำให้การจัดการกับปัญหาการทุจริตและประพฤติผิดต่าง ๆ ไม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควรเป็น
นอกจากนี้ ข้อมูลนั้นยังไม่สามารถถูกอ้างอิงระหว่างกันโดยอัตโนมัติได้ และผู้มีหน้าที่ในการสืบสวนรวมถึงเจ้าพนักงานก็มักเผชิญความยากลำบากในการตรวจตราธุรกรรมและอาชญากรรมต่างๆอย่างทันท่วงที จึงมักได้แต่แก้ปัญหาหลังจากที่การกระทำผิดและความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ในภาคการบริการด้านสุขภาพนั้น การ "ป้องกัน" การทุจริตในอดีตกระทำได้แค่ เป็นเหมือนการแก้ปัญหาในลักษณะ "วัวหายล้อมคอก" และเป็นการตามหาผู้กระทำผิดมากกว่าการป้องกันที่ต้นเหตุ เนื่องจากผู้กระทำผิดได้รับประโยชน์โดยมิชอบและหลบหนีไปนานแล้ว กว่าที่การกระทำผิดจะถูกตรวจพบ
ในการต่อสู้กับปัญหาการทุจริต เทคโนโลยีที่ทันสมัยจึงได้ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อป้องกันและคาดการณ์ เพื่อปิดช่องว่างของการกระทำผิดในรูปแบบที่แพร่หลาย ตลอดจนตรวจหาและจัดการกับรูปแบบการทุจริตใหม่ ๆ และแกะรอยขบวนการอาชญากรที่นับวันจะเพิ่มความซับซ้อนมากขึ้น การจะทำงานดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องใช้ความสามารถมากกว่าการวิเคราะห์ทั่วไป และอาศัยการวิเคราะห์ทั้งเชิงคาดการณ์และการปรับตัวที่รวดเร็ว รวมทั้งศักยภาพของAI เช่น machine learning อีกด้วย จึงนำมาสู่การประยุกต์ใช้แหล่งข้อมูลรูปแบบ big data ร่วมกับการตรวจตราแบบเรียลไทม์ที่ทันท่วงที และการประเมินความเสี่ยงรายบุคคลหรือ risk profile analysis เพื่อระบุคะแนนความเสี่ยงต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้คืนความได้เปรียบกลับมาสู่การป้องกันการประพฤติผิดในรูปแบบต่าง ๆ ในปัจจุบัน
การเอาชนะการขโมยตัวตนทางไซเบอร์ ด้วยพลังของระบบวิเคราะห์
การทุจริตรูปแบบหนึ่งที่กำลังเป็นที่กังวลของสาธารณชนนั้น คือการขโมยตัวตนหรือ identity fraud ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในระดับบุคคล และนิติบุคคล ในปัจจุบัน ผู้กระทำผิดนั้นสามารถเข้าถึงเครื่องมือและข้อมูลได้มากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้การกระทำผิดเป็นไปได้ง่ายดายยิ่งกว่าในอดีต และเกิดการขโมยตัวตนมากขึ้นอย่างเป็นประวัติการณ์ ตารางนี้ แสดงผลสถิติของการการเกิด "account take over" และ "card not present" และรูปแบบของการขโมยตัวตนอื่น ๆ ซึ่งนับวันจะเพิ่มจำนวนขึ้นในสังคม
ระบบการป้องกันการทุจริตที่ล้ำสมัยในปัจจุบัน
ปัญหาการก่อการร้ายที่สนับสนุนจากรัฐบางแห่งนั้นได้เพิ่มความซับซ้อนยิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา นอกจากนี้ ทั้งอาชญากรระดับมืออาชีพไปจนถึงผู้ก่อเหตุระดับมือสมัครเล่นนั้น ล้วนแต่มีวิวัฒนาการขึ้น ทำให้ภาคความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ทำความเข้าใจ ติดตาม ตรวจตรา จับกุม และป้องกันการก่อเหตุได้ยากยิ่งขึ้นกว่าในอดีต การตรวจตราการกระทำผิดในปัจจุบันนี้ จึงต้องอาศัยวิธีการที่ครอบคลุมและซับซ้อนตามไปด้วย เพื่อทำการจับคู่ข้อมูลต่าง ๆ เข้ากับพฤติกรรมที่ปรากฏ เพื่อตรวจพบสัญญาณเตือนและสิ่งผิดปกติต่าง ๆ ผู้กระทำผิดจำนวนมากนั้นได้พัฒนาวิธีการที่ซับซ้อนขึ้นมา ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกฝ่ายจะต้องมีทั้งความรู้และเครื่องมือที่เท่าทัน ในการรับมืออาชญากรรมต่าง ๆ ทุกรูปแบบ
บ่อยครั้งที่การทุจริตเกิดขึ้นได้จากช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ ในภาคการค้าปลีกหรือภาคการเงินนั้น ในอดีต การตรวจตราการทำธุรกรรมแบบเรียลไทม์ เคยเป็นมาตรการเสริมที่มีใช้เฉพาะธุรกิจในระดับสูงเท่านั้น แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นมาตรฐานปกติที่ใช้กันทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะสำหรับธุรกรรมการเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกิจกรรมทางดิจิทัลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยืนยันตัวตน กิจกรรมของบัญชี ตำแหน่งที่อยู่ และอุปกรณ์อีกด้วย
ในการที่องค์กรของคุณจะสามารถตรวจจับและป้องกันการทุจริตหลากหลายรูปแบบได้ด้วยความรวดเร็วทันการณ์ พร้อมไปกับการสร้างบริการที่ดีแก่ลูกค้าหรือประชาชนนั้น คุณควรปฏิบัติตามขั้นตอนที่สำคัญยิ่งสี่ประการดังต่อไปนี้:
- รวบรวมและรวมศูนย์ข้อมูลทุกประเภทที่ทำได้ไว้ด้วยกันจากทุกหน่วยย่อย เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์
- คอยจับตาดูและตรวจตราธุรกรรมต่าง ๆ ตลอดจนเครือข่าย พฤติกรรมผิดปกติ ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง และนำระบบวิเคราะห์พฤติกรรมหรือ behavioural analytics มาใช้งานกับข้อมูลที่ได้รับดังกล่าว เพื่อช่วยสนับสนุนการทำการตัดสินใจแบบเรียลไทม์
- กระตุ้นการใช้งานระบบการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพ และวัฒนธรรมการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมทั้งองค์กรมาใช้งาน ด้วยการจัดการข้อมูลเชิงภาพในทุกระดับการทำงาน ซึ่งรวมถึงการดูแลปรับแต่งกระบวนการทำงานด้านการสืบสวนต่าง ๆ ให้เหมาะสมอีกด้วย
- นำกระบวนการด้านความปลอดภัยที่มีความเข้มแข็งและมีการปกป้องหลายชั้นมาใช้
เทคโนโลยีสำหรับการป้องกันและตรวจจับการกระทำผิดที่คุณไว้วางใจเลือกใช้นั้น ควรจะต้องมีขีดความสามารถในการเรียนรู้จากชุดข้อมูลที่มีความซับซ้อนสูงได้ ระบบของคุณ ควรต้องทำงานได้ด้วยแบบจำลองการตัดสินใจที่ซับซ้อน เพื่อลดการจับผิดผู้บริสุทธิ์ และตรวจสอบความสัมพันธ์เชิงเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อให้เห็นมุมมองในภาพรวมของการกระทำผิดของอาชญากรและมิจฉาชีพ และต้องสามารถผสมผสานเทคนิคด้านการเรียนรู้ของเครื่องเช่น deep learning neural networks, extreme gradient boosting และ vector machines รวมถึงเทคนิคที่เป็นที่ยอมรับกันเช่นแบบจำลอง logistic regression, self-organizing maps, random forests และการทำ ensembles ซึ่งจะเป็นการพัฒนาความแม่นยำและประสิทธิภาพมากกว่าแนวทางที่ทำตามกฎเกณฑ์อย่างไม่ยืดหยุ่นเดิม ๆ

ลดการจับผิดผู้บริสุทธิ์ลงกว่าครึ่ง
เราได้ทำการเพิ่มอัตราการตรวจพบการกระทำผิดจริงขึ้นกว่าร้อยละ 50 และลดการทุจริตประเภท card fraud ลงได้มากถึงระหว่างร้อยละ 50-70 สำหรับบัตรต่าง ๆ ภายใต้โครงการป้องกันเหตุของเรา โดยที่เราสามารถลดการจับผิดผู้บริสุทธิ์หรือ false positives ซึ่งก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ลูกค้าที่ดำเนินธุรกรรมโดยสุจริตลงเหลือเพียงครึ่งเดียวของที่ผ่านมา นั่นแปลว่า เราสามารถเพิ่มการรับมือเหตุการณ์ทุจริตได้มากขึ้น และลดความยุ่งยากหรือความรำคาญแก่ผู้ที่ใช้งานอย่างปกติลงได้พร้อมกัน
ผู้ใช้งานหลักของระบบรับมือการทุจริต
ทั้งภาคธุรกิจและภาครัฐได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ เช่นการแสดงผลเชิงภาพ และ AI มาใช้งาน เพื่อลดและป้องกันผลเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นจากการทุจริตและการกระทำผิดต่างๆ โดยนักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่ด้านการสืบสวนต่าง ๆ ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและทลายกำแพงข้อมูลหรือ data silos ต่าง ๆ รวมถึงทำการให้คะแนนและตรวจหาสัญญาณเตือนต่าง ๆ จากนั้นจึงส่งเหตุการณ์ที่มีการแจ้งเตือนระดับเร่งด่วนสูงไปเพื่อการพิจารณาดำเนินการโดยละเอียดต่อไป
ภาคการธนาคาร
การกระทำผิดและอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในภาคการธนาคารนั้น มักเกิดจากตัวตนปลอม การแฮคและยึดบัญชีของผู้ใช้รายต่าง ๆ แอปพลิเคชั่นที่ฝังไวรัสไว้ รวมไปถึงปัญหาในการทำธุรกรรม การยืนยันตัวตน และอาชญากรรมทางการเงินรูปแบบอื่น ๆ สถาบันการเงินจึงควรมีขีดความสามารถในการตรวจจับธุรกรรมที่เป็นการทุจริตได้อย่างทันท่วงทีในแบบreal time โดยลดการเกิด "ผลบวกที่ผิดพลาด" หรือ false positives คือการจับผิดผู้บริสุทธิ์ลง รวมถึงต้องสามารถตรวจพบและป้องกันการฟอกเงิน หรือการสนับสนุนเงินทุนแก่ผู้ก่อการร้าย โดยอาศัยอัลกอริทึมที่ซับซ้อนซึ่งจะทำการพิจารณาปัจจัยและตัวแปรจำนวนมาก
ภาคการประกันภัย
การหลอกลวงด้านการประกันภัยนั้นยังคงมีอยู่และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการทุจริตในรูปแบบ application fraud ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แทนที่คุณจะรับมือปัญหาแบบไล่ตามจับผู้กระทำผิดหลังเกิดความเสียหายแต่เพียงอย่างเดียว หลังจากที่คุณได้จ่ายเงินแก่กรมธรรม์ไปแล้วนั้น
นักวิเคราะห์ชั้นนำสามารถป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ได้ด้วยการนำalgorithmที่ทันสมัยมาใช้เพื่อตรวจจับพฤติกรรมและรูปแบบที่ผิดปกติต่าง ๆ เมื่อคุณสามารถวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสัญญาณเตือนการทุจริตที่ก่อตัวขึ้นนั้น คุณจะไม่เพียงสามารถตรวจจับและป้องกันการทุจริตใด ๆ ได้อย่างทันท่วงที แต่คุณยังสามารถป้องกันการเกิดการกระทำผิดขึ้นได้ก่อนจะเกิดความเสียหายที่สายเกินแก้ได้เลยทีเดียว
ภาครัฐ
ภาครัฐต่าง ๆ กำลังทำการสลายกำแพงกั้นด้านข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ หรือ data silos เพื่อตรวจจับการทุจริตด้านภาษี คาดการณ์การก่อตัวของการประพฤติที่มิชอบ ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติต่าง ๆ และขจัดโอกาสการเกิดอาชญากรรมและการกระทำผิดทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งขีดความสามารถเหล่านี้จะเพิ่มความปลอดภัยในหลายมิติ ทั้งความปลอดภัยทางพรมแดน ข้อมูลสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย ต่อสู้ภัยจากยาเสพติด และปกป้องความปลอดภัยให้แก่เด็กและเยาวชน
ภาคการแพทย์และบริการด้านสุขภาพ
การหลอกลวงด้านการเอาประกันภัยในวงการบริการด้านสุขภาพนั้นก่อให้เกิดความเสียหายคิดเป็นตัวเงินนับหลายล้านหรือหลายพันล้านทั่วโลก องค์กรด้านสุขภาพได้นำแนวทางการป้องกันการกระทำผิดโดยพัฒนาแก้ไขระบบให้ครอบคลุมระดับของทั้งองค์กร เพื่อดูแลประเด็นด้านการชำระเงินที่เป็นธรรมและถูกต้อง และการกำกับดูแลต้นทุนด้านการบริการทางสุขภาพ ด้วยความสามารถของระบบการวิเคราะห์ที่ทันสมัย
รับชมข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมอื่น ๆ
- Automotive
- Banking
- Capital Markets
- Casinos
- Communications
- Consumer Goods
- Defense & Security
- Government
- Health Care
- Health Insurance
- High-Tech Manufacturing
- Higher Education
- Hotels
- Insurance
- Life Sciences
- Manufacturing
- Media
- Midsize Business
- Oil & Gas
- P-12 Education
- Retail Analytics
- Sports Analytics
- Travel & Transportation
- Utilities
การทำงานของระบบการป้องกันการทุจริต
การตรวจจับและป้องกันการทุจริตและกระทำผิดนั้น
มิได้เป็นกระบวนการที่หยุดนิ่งหรือกระทำเพียงครั้งเดียวแล้วเสร็จสิ้น กล่าวคือ ไม่ใช่กระบวนการที่เริ่มขึ้นแล้วจบลง ณ จุดใดจุดหนึ่ง
หากแต่ต้องมีการทำการตรวจตรา เฝ้าระวัง ตัดสินใจ
จัดการกรณีแต่ละกรณี และเรียนรู้ที่จะป้อนข้อมูลที่มีประโยชน์กลับเข้าสู่ระบบ
โดยทุกองค์กรจำเป็นต้องเรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือจากเหตุการณ์แต่ละครั้ง
และใช้บทเรียน ข้อมูลจากทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นข้อมูลแก่ระบบในการทำการเรียนรู้
และตรวจจับการกระทำผิดครั้งต่อ ๆ ไปในอนาคต ซึ่งในการนี้
จำเป็นจะต้องมีการจัดการดูแลระบบการวิเคราะห์อย่างครบวงจร ทั่วทั้งองค์กร
เป้าหมายของคุณนั้น เช่น การตรวจจับการกระทำผิด
การปฏิบัติตามกฎระเบียบและกฎหมาย หรือเป้าหมายด้านความปลอดภัย ซึ่งในปัจจุบันนี้ที่เทคโนโลยีเช่น AI และ
machine learning ได้ทวีความแพร่หลายขึ้นนั้น
เทคโนโลยีในยุคต่อจากนี้ไป จะเป็นการแปลงงานที่เคยกระทำแบบใช้เวลาและแรงงานคน ให้กลายเป็นกระบวนการอัตโนมัติ
รวมทั้งการผสมผสานการใช้งานชุดข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์เชิงพฤติกรรม
Supervised Learning
อัลกอริทึมการเรียนรู้แบบ supervised machine learning นั้น สามารถเรียนรู้จากข้อมูลในอดีต และหารูปแบบเป้าหมายซึ่งผู้ตรวจสอบอาจสนใจและให้ความสำคัญ
Unsupervised Learning
การเรียนรู้แบบ unsupervised learning นั้น จะประเมินและพิจารณาชุดข้อมูลต่าง ๆ ที่ไม่มีการกระทำผิดที่ถูกตรวจพบอยู่ภายในนั้น วิธีนี้ ใช้เพื่อค้นหาความผิดปกติแบบใหม่ ๆ และรูปแบบที่ควรพิจารณา
Network
Analysis
การทำ network analysis นั้น ใช้เพื่อการระบุเส้นทาง ความเชื่อมโยง และจุดเชื่อมต่อต่าง ๆ ที่ช่วยให้เห็นถึงรูปแบบของเครือข่ายทางสังคมที่น่าจับตามอง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับผู้มีหน้าที่ด้านการสืบสวน
Text
Analytics
การวิเคราะห์ข้อความรูปแบบคำ ใช้เพื่อระบุชื่อ เวลา นิติบุคคลหรือบริษัท มูลค่าในรูปตัวเงิน และข้อมูลที่น่าจับตาอื่น ๆ ได้อย่างแม่นยำ ด้วยการสืบค้น จัดหมวดหมู่เนื้อหา และการสกัดข้อมูลรายการและตัวตนต่าง ๆ ที่เป็นที่สนใจ
"เมื่อเศรษฐกิจแบบดิจิทัลหรือ digital economy เติบโตและแผ่ขยายไปในวงกว้างนั้น สิ่งหนึ่งที่เติบโตตามมาคือปัญหาการทุจริต หลอกลวงทางไซเบอร์ และประเด็นความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง เราต้องการที่จะร่วมมือและสนับสนุนลูกค้าของเราในแต่ละขั้นตอนของการพัฒนาระบบการวิเคราะห์ของลูกค้าแต่ละราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนการริเริ่มสร้างและใช้งานระบบเทคโนโลยีเช่น AI, IoT และคลาวด์ ด้วยความช่วยเหลือของ SAS นั้น ลูกค้าของเราจะมั่นใจได้ว่า ตนจะมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นในการลดปัญหาการแยกตัวของข้อมูลในส่วนต่าง ๆ หรือ data silo และสามารถปรับตัวตามกฎเกณฑ์ข้อบังคับที่เปลี่ยนแปลงไป และป้องกันตนเองจากความเสี่ยงและอันตรายทั้งในปัจจุบันและอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ" Stu Bradley Vice President, Fraud and Security Intelligence Practice at SAS
ความก้าวหน้าในอนาคต
รับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบการวิเคราะห์ของ SAS ด้านการป้องกันการทุจริต ด้านการฟอกเงิน และด้านความปลอดภัย
ระบบป้องกันการกระทำผิดที่คุณไว้วางใจได้เต็มที่
ผู้กระทำผิดและอาชญากรทุกวันนี้ ทำงานอย่างรวดเร็วขึ้นและฉลาดขึ้นกว่าในอดีต คุณจึงต้องการพันธมิตรที่ไว้วางใจได้ในการปกป้องกิจการของคุณจากความสูญเสีย ในฐานะที่ SAS ของเราเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการวิเคราะห์ชั้นเลิศ เราพร้อมมอบเครื่องมือเชิงรุกในการรับมืออาชญากรรมและการทุจริตทุกรูปแบบ ด้วยพลังของ AI และ machine learning
ผลิตภัณฑ์เด่นในการรับมือการทุจริต
SAS® Visual Investigator
SAS® Visual Investigator เป็นระบบการวิเคราะห์เพื่อตรวจจับและสืบสวนการกระทำผิดและการทุจริต และการจัดการสถานการณ์ไม่คาดฝันต่าง ๆ ซึ่งทำงานโดยอาศัยการผสมผสานข้อมูลจำนวนมากจากแหล่งต้นทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่กระจัดกระจายตัวอยู่ หรือข้อมูลทั้งแบบมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง ระบบอินเตอร์เฟสเชิงภาพของเราจะช่วยให้ผู้ใช้งานของคุณสามารถทำการกำหนด สร้าง ใช้งาน และทำการจัดการการแจ้งเตือนต่าง ๆ และสามารถตรวจตราและทำการสืบสวนได้อย่างละเอียดที่สุด เพื่อทราบถึงพฤติกรรมและกิจกรรมที่อาจถูกซ่อนอยู่
